top of page

ครบ จบ เรื่องน้ำยาหล่อเย็น เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับรถยนต์ของคุณ

อัปเดตเมื่อ 30 มิ.ย.


น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) คือของเหลวที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบระบายความร้อนของรถยนต์ ช่วยควบคุมอุณหภูมิ ป้องกันความร้อนสูงเกินไป และลดการกัดกร่อนในเครื่องยนต์ หากเลือกใช้น้ำยาหล่อเย็นผิดประเภทหรือดูแลไม่ถูกวิธี อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด (Overheat) จนเกิดความเสียหายร้ายแรงได้


บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักน้ำยาหล่อเย็นแบบครบวงจร พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้และการดูแลระบบหล่อเย็นให้ใช้งานได้ยาวนาน


🔧 น้ำยาหล่อเย็นคืออะไร และทำไมต้องใช้?

น้ำยาหล่อเย็น คือของเหลวที่ทำหน้าที่ถ่ายเทความร้อนจากเครื่องยนต์ไปยังหม้อน้ำ โดยมีสารเคมีพิเศษที่ช่วยป้องกันการกัดกร่อน การเกิดสนิม และการสะสมของตะกรันในระบบหม้อน้ำ

หากไม่ใช้น้ำยาหล่อเย็น หรือใช้น้ำเปล่าแทน อาจเกิดปัญหา:

  • เครื่องยนต์ร้อนจัด (Overheat)

  • หม้อน้ำตันจากตะกรัน

  • ชิ้นส่วนภายในผุกร่อนหรือรั่วซึม

  • **อาการเหล่านี้จะไม่ได้พบทันที แต่จะรู้เมื่อตอนมีอาการรั่ว หรือเครื่องยนต์มีความร้อนขึ้น


🧪 น้ำยาหล่อเย็นมีกี่ประเภท และแบบไหนดีที่สุด?

การเลือกน้ำยาหล่อเย็นให้เหมาะกับรถมีผลต่ออายุการใช้งานของระบบระบายความร้อน โดยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก:

ประเภท

จุดเด่น

อายุการใช้งาน

สีที่พบ

IAT

สูตรเก่า มีซิลิเกต

2 ปี / 40,000 กม.

เขียว

OAT

สูตรใหม่ ไม่มีซิลิเกต

5 ปี / 100,000 กม.

ชมพู / น้ำเงิน / เขียว

HOAT

ผสมสูตรเก่าและใหม่

5 ปี / 100,000 กม.

เหลือง / ส้ม

NAPS-Free OAT

ปราศจากสารตกค้าง

ทนร้อนสูง ยาวนาน

ใส

แนะนำ: ควรเลือกใช้ OAT หรือ NAPS-Free OAT เพราะให้การปกป้องสูง อายุการใช้งานยาว และไม่ตกตะกอนในระบบ


💧 ควรใช้น้ำอะไรผสมกับน้ำยาหล่อเย็น?

น้ำที่ใช้ผสมกับน้ำยาหล่อเย็นก็สำคัญไม่แพ้ตัวน้ำยาเอง เพราะถ้าใช้น้ำที่มีแร่ธาตุ เช่น น้ำประปา อาจเกิดการสะสมของหินปูนและการกัดกร่อนได้

ประเภทน้ำ

เหมาะสม

หมายเหตุ

De-ionized Water

✅ ดีที่สุด

ปราศจากแร่ธาตุ

Distilled Water

✅ ดี

น้ำกลั่นบริสุทธิ์

RO Water

✅ พอใช้ได้

ต้องมั่นใจว่าไม่มีแร่ปนเปื้อน

น้ำประปา

❌ ห้ามใช้

มีแร่ธาตุทำให้เกิดสนิม/ตะกรัน

สรุป: ใช้เฉพาะ น้ำกลั่น (Distilled Water) หรือ น้ำ De-ionized (DI Water) เท่านั้นในการผสมน้ำยาหล่อเย็น



น้ำยาหล่อเย็นควรเปลี่ยนเมื่อไร?

การเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นตามระยะมีผลต่อการยืดอายุหม้อน้ำและเครื่องยนต์ โดยทั่วไปควรเปลี่ยน:

  • IAT: ทุก 2 ปี หรือ 40,000 กม.

  • OAT / HOAT / NAPS-Free OAT: ทุก 5 ปี หรือ 100,000 กม.

🚗 แนะนำ: ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นทุกเดือน และเปลี่ยนทันทีหากพบสีเปลี่ยน หรือมีกลิ่นแปลก



🌡 น้ำยาหล่อเย็นทนอุณหภูมิสูง มีข้อดีกว่าแบบธรรมดาอย่างไร?

น้ำยาหล่อเย็นคุณภาพสูงจะมีจุดเดือดสูงกว่าปกติ (120–130°C) ทำให้:

  • ป้องกันการ Overheat ได้ดีกว่า

  • ลดความดันในหม้อน้ำ ไม่ทำให้ฝาหม้อน้ำระเบิด

  • เหมาะสำหรับ รถยนต์สมรรถนะสูง รถซิ่ง รถบรรทุก หรือรถที่ใช้หนัก

น้ำยาหล่อเย็นที่ดี = รถเย็น = เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ



สรุปคำแนะนำในการดูแลระบบหล่อเย็น

✅ ใช้น้ำยาหล่อเย็นสูตร OAT หรือ NAPS-Free สำหรับการปกป้องที่ดีที่สุด

✅ ผสมน้ำยากับน้ำกลั่น หรือ De-ionized Water เท่านั้น

✅ เปลี่ยนถ่ายตามระยะเวลาที่แนะนำ

✅ หมั่นตรวจระดับและคุณภาพน้ำในหม้อน้ำเป็นประจำ



สนใจน้ำยาหล่อเย็นคุณภาพสูงสำหรับรถของคุณ

Fortron Supreme Longlife Coolant

เทคโนโลยี NAPS-free OAT ทนทานความร้อนสูง และอายุการใช้งานยาวนาน ไม่เกิดตะกรัน สนิม ด้วยการผสมกับ De-ionized Water Type II เกรดสำหรับระบบหม้อน้ำโดยเฉพาะ นำไฟฟ้าต่ำ


สูตรพิเศษกึ่งเข้มข้น สามารถผสมน้ำเพิ่มได้สูงสุด 8 ลิตร

สามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์สันดาป รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด มอเตอร์ไซค์


LINE : @fortron


หรือสั่งซื้อได้ทาง Marketplace


#น้ำยาหล่อเย็น #น้ำยาหล่อเย็นโฟรตรอน #FortronCoolant #Coolantรถยนต#น้ำยาหล่อเย็นรถยนต์ #น้ำยาหล่อเย็นสีแดง #น้ำยาหล่อเย็นOAT #น้ำยาหล่อเย็นNAPSFree #น้ำยาหล่อเย็นรถซิ่ง #น้ำยาหล่อเย็นรถEV #Coolantคุณภาพสูง #น้ำยาหล่อเย็นกันสนิม #น้ำยาหล่อเย็นไม่เป็นตะกรัน #หม้อน้ำรถยนต์ #น้ำยาหล่อเย็นรถกระบะ #น้ำยาหล่อเย็นรถเก๋ง #ดูแลรถยนต์ #น้ำยาหล่อเย็นรถไฮบริด #น้ำยาหล่อเย็นไม่กัดกร่อน #น้ำยาหล่อเย็นยี่ห้อไหนดี

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating
bottom of page