น้ำมันเครื่องเบอร์ยิ่งสูง ยิ่งดีจริงหรือไม่ !?

FortronMan
8 ก.ค.
ยาว 2 นาที

🔥 เบอร์น้ำมันเครื่อง (Viscosity) ยิ่งสูงยิ่งดีจริงหรือไม่?

✅ 1. เบอร์น้ำมันเครื่องคืออะไร?

เบอร์น้ำมันเครื่อง หรือค่าความหนืด (Viscosity Grade) กำหนดโดย SAE (Society of Automotive Engineers) เช่น 5W-30, 10W-40, 15W-50

🔹 ตัวเลขด้านหน้า (5W, 10W, 15W) = ความหนืดในอุณหภูมิต่ำ (W = Winter) และความหนาของฟิล์มน้ำมัน

🔹 ตัวเลขด้านหลัง (30, 40, 50) = ความหนืดที่อุณหภูมิสูง (100°C) ที่น้ำมันเครื่องยังคงสภาพหล่อลื่นได้

📌 ตัวเลขหน้า W ยิ่งสูง ฟิล์มน้ำมันยิ่งหนากว่าในอุณหภูมิสูง

แต่ไม่ได้หมายความว่า ทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้ดี

การทนความร้อนของฟิล์มน้ำมันเครื่อง จะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของฟิล์มน้ำมันเครื่อง ซึ่งมีผลมาจาก"เบสกรุ๊ป" ที่เลือกใช้ในการผลิตน้ำมันเครื่องนั้นๆ

✅ 1. กลุ่มน้ำมันพื้นฐาน (Base Oil Group)

Group IV & V (PAO, Ester) ให้ฟิล์มน้ำมันแข็งแรงกว่า Group I-III แม้มีเบอร์น้ำมันเท่ากัน
น้ำมันสังเคราะห์ (Fully Synthetic) ให้การปกป้องที่ดีกว่า
น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐานล่าสุดจะให้การฟิล์มน้ำมันเครื่องที่ดีกว่า
สนใจเรื่องกรุ๊ปน้ำมันเครื่อง คลิก >> https://www.fortron.co.th/post/motoroilgroup

✅ 2. ค่า HTHS (High-Temperature High-Shear)

บอกถึงความแข็งแรงของฟิล์มน้ำมันที่อุณหภูมิสูงและภายใต้แรงกดสูง
น้ำมันที่มี HTHS สูงกว่า จะให้ฟิล์มน้ำมันที่แข็งแรงกว่า

✅ 3. สารเติมแต่ง (Additives)

ZDDP (Zinc Dialkyldithiophosphate) ช่วยเพิ่มการปกป้องฟิล์มน้ำมัน
Ester-based Additives ให้แรงยึดเกาะสูงขึ้น

สรุป : เบอร์น้ำมันเครื่องความหนืดสูงไม่ได้บ่งบอกถึงว่าน้ำมันเครื่องนั้นดีที่สุด เพราะจะมีเรื่องของความแข็งแรงของฟิล์มน้ำมันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจากเบสกรุ๊ป และสารเพิ่มประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป

แล้วเราควรเลือกใช้เบอร์แบบไหนดี

ในการเลือกน้ำมันเครื่องให้เลือก

1.เบอร์ความหนืดตามเลขไมล์ก่อน

2.เบสกรุ๊ป ถ้าเบสกรุ๊ปยิ่งสูงการปกป้องเครื่องยนต์จะดีมากยิ่งขึ้น

3.มาตรฐาน ยิ่งมาตรฐานใหม่ ยิ่งให้การทำความสะอาด และปกป้องเครื่องยนต์ดีมากขึ้น ส่วนใหญ่น้ำมันเครื่องที่จำหน่ายจะเป็นมาตรฐานปัจจุบันอยู่แล้ว ตามระเบียบ กรมธุรกิจพลังงาน แต่เช็คให้ชัวร์ก่อนซื้อว่าเป็นมาตรฐานล่าสุดก่อนก็เป็นเรื่องที่ดีครับ

ผมขอแยกออกเป็นเบนซิน และดีเซล เนื่องจากจะมีเรื่องมาตรฐานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ

สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

เลขไมล์ (กม.)	0-100,001	100,000-200,001	200,001-300,000	300,001 ขึ้นไป
ความหนืด	0W-20 0W-30 5W-30	5W-30 10W-30	10W-30 5W-40 10W-40	10W-40 15W-40 ฟิตเครื่องใหม่
มาตรฐาน	ล่าสุด <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< มาตรฐานเก่า
*ที่มีจำหน่าย ณ ปี 2025	SP, SP-RC, ILSAC GF-6A	SN Plus, SN Plus-RC	SN	SM
กรุ๊ปน้ำมันเครื่อง	ดีที่สุด <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< ใช้งานได้
	PAO, Group 3+	Group 3	Group 2	Group 1, Mineral

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

เลขไมล์ (กม.)	0-100,001	100,000-200,001	200,001-300,000	300,001 ขึ้นไป
ความหนืด	5W-30	5W-30 10W-30	10W-30 5W-40 10W-40	10W-40 15W-40 ฟิตเครื่องใหม่
มาตรฐาน	ล่าสุด <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< มาตรฐานเก่า
*ที่มีจำหน่าย ณ ปี 2025	CK-4	CJ-4	CI-4	CH-4
กรุ๊ปน้ำมันเครื่อง	ดีที่สุด <<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<< ใช้งานได้
	PAO, Group 3+	Group 3	Group 2	Group 1, Mineral

ทั้งนี้หากเบสกรุ๊ป และมาตรฐานสูงขึ้น ราคาน้ำมันเครื่องจะสูงขึ้นตาม แต่ผลพลอยได้คือ อาการเครื่องหลวมจะมาช้าลงจาก 300,000 กม. อาจจะยืดออกไปได้สูงสุดถึง 500,000 กม. ก่อนที่ต้องฟิตเครื่องใหม่ และลดปัญหาชิ้นส่วนเครื่องที่ต้องเปลี่ยนลงไปได้เยอะ นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในเรื่องของการเลือกของเพื่อบำรุงรักษารถในระยะยาวเลยครับ

--------------------------------------------------

และหากคุณอ่านมาถึงตรงนี้ ผมมั่นใจว่าคุณต้องเป็นหนึ่งในคนที่เลือกน้ำมันเครื่องที่ดีให้กับรถคุณเองแน่นอน

คงจะไม่เป็นการเสียเวลามาก หากผมจะแนะนำให้คุณรู้จักกับแบรนด์ที่กล้าใช้เบสออยล์ กรุ๊ป 3 กรุ๊ป 4 มาทำน้ำมันเครื่องที่ดีออกมาให้ผู้ใช้รถได้ใช้กัน มาด้วยมาตรฐานล่าสุด พร้อมเบอร์ความหนืดที่เหมาะกับรถรุ่นใหม่

Fortron Motor Oil

น้ำมันเครื่องคุณภาพสูง นำเข้าจากออสเตรเลีย แบ่งออกเป็น 2 ซีรี่ย์

1.สตรอง (Strong Series)

เน้นความทนทาน อายุการใช้ของน้ำมันเครื่อง แต่ไม่ด้อยเรื่องประสิทธิภาพการหล่อลื่นด้วย กรุ๊ปน้ำมันเครื่องกลุ่ม 3 และ 3+ (นำเข้าจากออสเตรเลีย) อายุการใช้งานสูงสุด 20,000 กม. และสารเพิ่มประสิทธิภาพ Supreme (ESTER) ทำให้เพิ่มอัตราประหยัดน้ำมันได้สูงถึง 5% จากการเปลี่ยนเพียงครั้งแรก

สำหรับเบนซิน Strong 5W-30, Strong 5W-40

สำหรับดีเซล Strong D 5W-30, Strong D 5W-40, Strong D 10W-30, Strong D 15W-40

2.เรซซิ่ง (Racing Series)

เน้นประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สูงสุด ด้วยกรุ๊ปน้ำมันเครื่อง 4 PAO 100% ที่ให้การหล่อลื่นและการทนความร้อนสูงสำหรับรถที่ใช้รอบจัด รถแข่ง รถสปอร์ต ซุปเปอร์คาร์ ผสานกับสารเพิ่มประสิทธิภาพ Supreme (ESTER) จากออสเตรเลีย ทำให้สัมผัสได้ถึงอัตราเร่งที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้

สามารถใช้ได้ทั้งเบนซิน และดีเซล

Racing 0W-30, Racing 0W-40, Racing 5W-50, Racing 10W-60